บทเรียนระดับปริญญาตรี ปีที่ 3 แผนการเทรด Forex คืออะไร ?

แผนการเทรด Forex (Trading Plan)

เรื่องแผนการเทรด เป็นเรื่องที่คลุมเครือและไม่ค่อยชัด มันมีคำอธิบายน้อยมาก และไม่ค่อยมีคนเข้าใจว่า มันคืออะไร ทำหน้าที่อย่างไร และสำคัญอย่างไร ในบทเรียนนี้เราจะมาพูดถึงแผนการเทรด มันเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ก่อนที่จะไปเป็นเทรดเดอร์อาชีพ โดยเราจะมาเริ่มต้นกันตั้งแต่ทำไมต้องมีแผนการเทรด ไปจนถึงระบบเทรดกับแผนการเทรดต่างกันอย่างไร

 
 

สรุปแผนการเทรด Forex

แผนการเทรด Forex คือ แนวทางการปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเพื่อให้เป็นผลสำเร็จในระยะยาวนั้นเอง ซึ่งแผนการเทรดนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทบทวนสม่ำเสมอ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน

การวางแผนการเทรดนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

แผนการเทรด Forex ระดับที่ 1 คือ แผนการสร้างพอร์ทลงทุน

แผนการเทรด Forex ระดับที่ 2 คือ แผนการเทรดในแต่ละวัน

ซึ่งรูปแบบของแผนทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างกันออกไป และแผนการเทรดนี้ มักเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุด เนื่องจากเทรดเดอร์หลายคน สับสนระหว่างแผนการเทรดกับระบบเทรด การวางแผนการเทรดสำหรับการเทรดนั้น เป็นเรื่องสำคัญ และมองข้ามไม่ได้ ความแตกต่างของแผนการเทรด และระบบเทรด โดยระบบเทรด Forex คือ สิ่งที่เราต้องเผชิญแทบทุกครั้ง มีเงื่อนไขคือ กฎแห่งการเทรดที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เป็นต้น

ทำไมต้องมีแผนการเทรด

เนื่องจากแผนการเทรด Forex นั้น เป็นเหมือนกับเข็มทิศเพื่อป้องกันการหลงทางเวลาเดินทาง ตัวอย่างเช่น การเดินทางในป่านั้น เหมือนจะง่าย ถ้าหากดูจากแผนที่ แต่เมื่อเราเข้าไปในป่า เราไม่ได้มองมันมาจากข้างบน เรามองมันจากในป่า เราจะไม่เห็นอะไรนอกจากต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้ การที่เราเดินงมอยู่กับต้นไม้ เราจะไม่รู้ว่า ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน และจะไปทิศทางไหน ที่เดินอยู่ผิดหรือถูก ดังนั้น แผนการเทรดจึงถูกสร้างมา เพื่อเป็นสิ่งนำทาง ไม่ให้หลงทางนั้นเอง

ในการเทรดจริง ๆ แล้ว เราเหมือนจะรู้ว่าเราอยู่ตรงไหน แต่เอาจริงๆ ผมจะบอกคุณว่า “เราไม่รู้” เราไม่รู้อะไรเลย ในยามที่ตลาดช่วงขาลงหนัก ๆ เรามักจะหลงทาง และหวาดกลัวกันเป็นส่วนใหญ่ หรือจะนิยามได้ว่า “ป่าแห่งอารมณ์ของเรา” ซึ่งเราจะคิดอยู่เสมอว่า กราฟมันน่าจะขึ้นทำให้เราไม่ต้องขาดทุนหนัก และรอจนกว่ากราฟจะกลับมาขึ้น เป็นอาการที่เรียกว่า “หลงไปกับทิศทางของตลาด อาการแบบนี้แก้ได้ด้วยการมีแผนการเทรด Forex ที่ดี ถ้าอย่างนี้ คุณก็ต้องรู้แล้วว่า แผนการเทรด Forex ที่ดี มีลักษณะอย่างไร

แผนการเทรดทำให้เรามีแนวทางชัดเจนในการบริหารพอร์ท  Plan your trade
ภาพที่ 1 แผนการเทรดทำให้เรามีแนวทางชัดเจนในการบริหารพอร์ท

แผนการเทรดมีลักษณะอย่างไร

คำว่า แผนการ คือ การเตรียมการแต่ไม่ใช่การกำหนดสถานการณ์ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนั้นเลย การมีแผนการเป็นการเตรียมการรับมือกับความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ในอนาคต เพราะฉะนั้นแผนการเทรดจึงมีหลายรูปแบบ ในวันนี้ผมก็จะพูดถึงแผนการที่ใช้ในการเทรด ได้แก่ แผนการสร้างพอร์ท แผนการเทรด

ถ้าหากว่า การเทรดเป็นเหมือนกีฬา สิ่งที่มันต้องใช้ไม่ใช่กำลังกล้ามเนื้อ แต่เป็นกำลังความสามารถในการบริหารจิตใจให้ผ่านในช่วงเวลาที่แย่ๆ ไปได้ ดังนั้นแผนการเทรด Forex จึงมีลักษณะที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่าที่จะกำหนดเหตุการณ์ ทำให้แผนการเทรดนั้นแตกต่างจากระบบเทรดอย่างชัดเจน

แผนการสร้างพอร์ท Forex

แผนการสร้างพอร์ท Forex คือ การสร้างพอร์ทลงทุนคือ การกำหนดเป้าหมาย % ต่อปี เช่น การกำหนดให้ได้ปีละ 15 % นี่คือการวางแผนการสร้างพอร์ท โดยเฉลี่ยต่อเดือน 1.25 % ต่อเดือน หรือสัปดาห์ละ 0.31 % นั่นคือเป้าหมาย การกำหนดเป้าแบบนี้ทำให้เราสามารถกำจัดอารมณ์ได้ ขณะที่ถ้าหากเดือนไหนฉวยโอกาสและกราฟเคลื่อนไหวได้ดีก็จะทำให้ได้กำไรเยอะ ก็ถือว่าเป็น Bonus ไป

อีกตัวอย่างหนึ่งของแผนการเทรดคือ การกำหนด Drawdown ไว้ตั้งแต่แรกเช่น กำหนดไว้ที่ 5 % จากจุดสูงสุด ถ้าหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะทำการหยุดเทรดเพราะว่า การขาดทุนติดต่อกันหลายครั้งเกินไป ตัวอย่างเหล่านี้ การวางแผนแบบนี้จะต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ

ขอยกตัวอย่างของแผนที่กล่าวมาทั้ง 2 แผนเพราะว่า การกำหนดเป้าหมาย 15 % ต่อปี กำหนดให้ใกล้เคียงกับที่กองทุนเก็งกำไรทำได้ ขณะที่เทรดเดอร์ที่ไม่มีความเข้าใจจะกำหนดเป้าหมายเกินจริง เช่น 100 % ต่อปี ทำให้มีโอกาสที่จะล้างพอร์ทได้ง่ายมาก นั่นทำให้การเทรดมีความเสี่ยง อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ การไม่กำหนด Drawdown นั่นเพราะคิดว่า ตัวเองจะทำได้ดีในตาต่อ ๆ ไป แต่มันอาจจะจมลงไปเรื่อย ๆ อย่างนี้เรียกว่าเทรดไม่มีแผน

แผนการเทรด

การเทรดย่อมมีแผนการกำหนดไว้ เพราะในการเทรด สิ่งที่เราต้องเผชิญได้ง่ายมาก ๆ คือ อารมณ์ในการเทรด แผนการเทรดนั้นต้องแตกต่างจากกฎการเทรด หรือว่าระบบเทรด แผนการเทรดเป็นแนวทางที่กำหนดไว้ว่าจะทำ แต่กฎการเทรดนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งต้องใช้ในการออกแบบระบบเทรด

ตัวอย่างเช่น แผนการเทรด หากรู้สึกอยากเอาคืนให้ลุกออกจากโต๊ะและออกไปเดินเล่น

กฎการเทรด – เมื่อ MACD ตัดขึ้นให้ส่ง Buy

ความแตกต่างของแผนและกฎ คือ แผนการเทรดนั้นอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แต่ว่าการออกแบบแผนนั้นต้องส่งผลดีต่อจิตวิทยาการเทรดและผลดีต่อการเทรด ขณะที่ระบบเทรดนั้นจะต้องเผชิญกับสถานการณ์นั้นทุกวัน เช่น การเข้าเทรดจะต้องมีการเกิดขึ้นของเงื่อนไขการเทรด นั่นจึงเป็นกฎการเทรด ขณะที่บางวันเราอาจจะไม่หงุดหงิด หรือว่าคิดจะเอาคืนจากการเทรดนั่นเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า (ความต่างของแผนการเทรดและระบบเทรด)