Forex Trading For Living  ทำไมการเทรดแบบ Hedging ถึงใช้ไม่ได้ผล

ทำไมการเทรดแบบ Hedging ถึงใช้ไม่ได้ผล

เส้น

Forex Trading For Living  ทำไมการเทรดแบบ Hedging ถึงใช้ไม่ได้ผล

 

 ในวงการ Forex มีหน้าเก่าและหน้าใหม่เข้ามาอยู่ในวงการอยู่เรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา มีการวนไปเวียนมาของกลยุทธ์ที่พวกหน้าใหม่เข้ามาใช้ กลยุทธ์ที่นำเสนอมักจะเป็นกลยุทธ์ที่เคยมีการพูดถึงไปแล้ว ในวันนี้ผมได้เข้าไปอ่านเนื้อหาโพสต์ของนักเทรดท่านหนึ่ง ที่นำเสนอไอเดียของการเทรดแบบ Hedging นั่นคือ การส่งคำสั่ง คานกันทั้งสองค่าเงิน ซึ่งจริง ๆ แล้วกลยุทธ์เหล่านี้มันเหมือนกับการตามหา Holy Grail นั่นแหละ ถ้าหากว่ามันมีจริง คนที่อยู่มาก่อนก็คงแฉกลยุทธ์นี้แล้วก็ร่ำรวยกันขึ้นทุกคนแล้วนั่นแหละ แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ซึ่งก็เข้าข่ายว่าหน้าใหม่เข้ามาลองทุนอีกนั่นแหละ เอามาลองกันคนละ พันสองพันเหรียญ เผื่อว่าจะรวยกลับไป เพราะว่าลงทุน Forex อาจจะ 2 – 3 หมื่น แต่ลงทุนในธุรกิจนั้นต้องลงหลักแสนขึ้นไป มันหาเงินก้อนขนาดนั้นไม่ได้ และมันก็ไม่ให้กู้ด้วย  นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าพวกมือใหม่จึงนิยมมาลองทุนในตลาด Forex กันจัง

ที่มา https //wealthhow.com/currency-hedging-for-importers

ซึ่งในวันนี้ก็มีกลยุทธ์แบบหนึ่งที่นำเสนออยู่บนเว็บบอร์ด กลยุทธ์ลักษณะนี้เรียกว่า การ Hedging ค่าเงิน ที่มีความคล้ายคลึงกันสูง ในวงการจะเรียกว่า มันเป็น Arbitrage Trading ซึ่งก็ไม่ใช่ การทำ Arbitrage คือการซื้อสินค้าชนิดเดียวกันในสถานที่ต่างกัน และราคาต่างกันด้วยเหตุผลอื่น ๆ เช่น การรับรู้ทางด้านราคาช้า แต่ต้องรวมค่าขนส่งเข้าไปด้วยนะครับ ไม่ใช่ไม่รวมค่าขนส่ง เราลองมาดูเนื้อหากันว่าเป็นอย่างไร

นาย ก. ทำการ Buy ค่าเงิน EURUSD และทำการ Sell ค่าเงิน EURAUD เนื่องจากค่าเงินค่าด้านหน้าของคู่เงินทั้งคู่คือ ค่าเงิน EUR หรือค่าเงินยูโร จึงทำให้ค่าเงินนั้นเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกัน ในภาษานักสถิติที่เรียกให้หรูหราเรียกว่า Correlation ค่านี้มักจะแสดงความสัมพันธ์ 2 ลักษณะคือ ไม่เกิน 1 และ – 1 นั่นหมายความว่า ถ้า ค่าความสัมพันธ์ ของค่าเงิน EURUSD และ EURAUD เท่ากับ 0.8 หมายความว่า เคลื่อนไหวคล้ายคลึงกันในทิศทางเดียวกัน 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้า ค่าความสัมพันธ์เท่ากับ -0.8 นั่นหมายความว่า ค่าเงินทั้ง 2 เคลื่อนไหวทิศทางตรงกันข้าม 80 % เมื่อเป็นแบบนี้นักเทรดก็คิดว่า ถ้าค่าเงินเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกัน เมื่อตัวไหนขึ้นก่อน ก็เลยจะไป Buy อีกตัว เพื่อให้มันขึ้นตาม และ ไป Sell อีกตัวหนึ่งเพื่อให้มันลงมาหา เพราะว่ามันเคลื่อนไหวเหมือนกันนี่แหละ

ต้องขอบอกว่า แนวคิดนี้ใช้ไม่ได้ เพราะว่า การเทรดก็เหมือนกับการซื้อขายสินค้าอย่างอื่น เช่น เราซื้อมะนาว นั่นก็คือเรากำลังซื้อค่าเงิน “มะนาว/บาท” นั่นเอง สำหรับค่าเงิน EURUSD นั่นหมายความว่า เรากำลังซื้อ EUR ด้วยเงิน USD หรือก็คือ เรากำลังซื้อ EUR แล้วขาย USD นั่นแหละ แล้วอย่างนี้หมายความว่ายังไง เราลองย้อนกลับมาดูโจทย์ของเรา

นาย ก. Long EURUSD และ Sell EURAUD นั่นก็ตีความหมายได้ว่า

Long EUR และ Short EUR = ออเดอร์นี้คานกันทำให้ไม่ว่า EUR จะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน แต่ค่าเงินข้างหลังนั้นรับรู้อย่างไรบ้าง ในคู่เงิน EURUSD คือการ Short USD และทำการ Long AUD หรือก็คือ เรากำลังทำการ Long ค่าเงิน AUDUSD อยู่นั่นเอง จำตรงนี้ไว้ให้ดีก่อน ว่าการที่เรา Long EURUSD และ Short EURAUD เท่ากับ การ Long AUDUSD มันมีที่มาอย่างไร

นั่นเพราะว่า ในการเทรด AUDUSD ตรงนั้น พวกเทรดเดอร์กลัวที่จะต้องทำนายอนาคต ก็เลยใช้วิธีการแบบนี้ขึ้นมาและคิดว่า การเทรดแบบคานไว้ทั้งสองฝั่งนี้จะทำให้เขาไม่ขาดทุน และกำไรขาดทุนจะแกว่งตัวอยู่ช่วงใดช่วงหนึ่งไม่มากนัก ต้องบอกว่า พวกเขาคิดผิด เพราะว่า นั่นคือการ Long AUDUSD ซึ่งเขาก็ต้องไปเผชิญกับเทรนด์อยู่ดีนั่นเอง การเทรดที่บอกว่า พวกเขาไม่ต้องรองรับการแกว่งตัวมาก การคาน Position ไว้จึงไม่มีจริงและใช้ไม่ได้ผล

บางรายถึงขนาดทำการคานค่าเงินไว้ทั้งหมด ทั้ง 3 ขา เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างจากดอกเบี้ย เคยมีนักเทรดคนหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วพยายามจะทำกำไรจาก Swap ที่ได้จาก Broker การทำ Triangular Hedging หรือการเทรดคานกันสามขา แล้วให้เหลือค่า Swap เป็นบวก ต้องไปหาโบรคเกอร์ที่มีค่า Swap จากการเทรดนั้นเป็นบวก ตัวอย่าง ดังที่ผมจะยกต่อไปนี้

  • Long EURUSD
  • Short EURAUD
  • Short AUDUSD

ซึ่งทั้ง 3 ค่าเงินคานกันสมบูรณ์จนทำให้กำไรขาดทุนไม่ขยับเพราะ แต่สิ่งที่ขยับคือ ต้นทุน Spread ที่ Broker กำหนดไว้แล้ว และ Swap สมมุติว่า ในตัวอย่าง Long EURUSD ได้ Swap + 0.1 USD และ Short EURAUD ได้ Swap + 0.2 และ Short AUDUSD เสีย Swap – 0.2 นั่นเท่ากับว่าเราได้ส่วนต่าง Swap จากค่าเงิน 0.1 USD ทุกวัน นี่แหละคือไอเดีย แต่ผมบอกไว้ก่อน โบรคเกอร์เขาไม่ได้โง่ครับ Swap มีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ย และ เราเสียเปรียบจาก Spread ที่เราขาดทุนจาก ค่าเงินทั้ง 3 แล้วมันไม่คุ้มค่า ถ้าทำกำไรง่ายเพียงนี้ก็คงไม่มีกองทุนเก็งกำไรให้นักลงทุนไปลงแล้วครับ เขาแค่เอาเงินไปลงทุนเองก็ได้ครับ

Keywords การเทรด Arbitrage การทำ Triangular Arbitrage การเทรด Hedging การเทรดแบบ Currency Basket

 

ทีมงาน .com

เส้น