E-currency หรือธนาคารออนไลน์คืออะไร

E-currency หรือธนาคารออนไลน์คืออะไร ช่องทางการฝากถอนนี้สะดวกอย่างไร

แต่เดิมการทำธุรกรรมต่างๆนั้นถูกจำกัดอยู่แค่ที่ธนาคารเท่านั้น แต่เมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไป เทคโนโลยีต่างๆก็ล้ำหน้าขึ้นมาก การทำธุรกรรมทางการเงินไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารอีกต่อไป เพราะเราสามารถฝาก ถอน โอนหรือจ่ายเงินได้ผ่าน E-currency ได้แล้ว ว่าแต่…E-currencyที่ว่ามันคืออะไรกันล่ะ?

E-currency หรือธนาคารออนไลน์1

 

E-currency คืออะไร?

สำหรับเทรดเดอร์หลายๆท่านอาจจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว ถ้าแปลกันแบบตรงตัวไปเลยคำว่า E-currency ซึ่งย่อมาจาก eletrical currency จะมีความหมายว่า “เงินอิเล็กทรอนิกส์”  หรือสกุลเงินออนไลน์สำหรับใช้งานบนโลกอินเตอร์เน็ตที่มีมูลค่าเหมือนกับเงินจริงๆผ่านทางเว็บไซต์E-currency ต่างๆเช่น Skrill ,neteller ,perfectmoney , ok-pay หรือ Paypal เป็นต้น ซึ่งเดี๋ยวนี้แต่ละเว็บไซต์ก็ได้พัฒนาในเรื่องของความปลอดภัยขึ้นอีกหลายระดับ เราจึงสบายใจได้ว่าเงินของเรานั้นอยู่รอดปลอดภัยแน่นอน

แต่ถ้าเป็นวงการForex จะมีศัพท์คำว่า การเทรด E-currency ส่วนนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมรับ-ส่งเงินแต่ย่างใด แต่มีความหมายว่าการลงทุนกับสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น Bitcoin เป็นต้น  (เหมือนกับที่เราเทรดสกุลเงินต่างๆบน MT4นั่นแหละครับ เพียงแต่เป็นการเทรดด้วยค่าเงินอิเล็กทรอนิกส์แทน เช่น BTC THB)

ข้อดีของ E-currency

               ถ้าถามว่าแล้วมันมีข้อดีอะไรบ้าง อย่างแรกเลยที่ผมจะอวยก็คงเป็นเรื่องของ “เวลา”แหละครับ สมมุติกรณีที่ผมต้องการรับเงินข้ามประเทศด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร ผมจะต้องรออย่างน้อย 3- 5วันขึ้นไปครับจึงจะได้รับเงิน หรือถ้าเราเลือกรับเงินผ่านเช็คเงินสดนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย ในขณะที่การโอนผ่าน E-currencyนั้นใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง ภาพตัวอย่างด้านล่างมาจาก Roboforexครับผม เห็นชัดๆกันไปเลยว่าใช้เวลานานกว่ากันขนาดไหน

E-currency หรือธนาคารออนไลน์2

ข้อดีอีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กันได้แก่ “ความสะดวกสบาย” โดยปกติE-currencyจะสามารถฝากเงินผ่านบัตรเครดิตได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น หรือบางเว็บไซต์ก็ใช้เวลาแค่หลักนาทีเท่านั้นเอง นั่นหมายถึงเราแทบจะไม่ต้องขยับไปไหนเลย หรือหากใครไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บที่มีให้บริการซื้อ-ขายเงินออนไลน์ก็ได้เช่นกันครับ

ถ้าพูดถึงเรื่องเงินทองแล้ว ก็คงจะอดนึกถึงในเรื่องของความประหยัดไม่ได้ การโอนเงินผ่านทางธนาคารออนไลน์นั้นถือว่ามีค่าธรรมเนียมการโอนเงินที่ต่ำมากๆเมื่อเทียบกับการโอนผ่านธนาคารจริง ตัวอย่างเช่นการถอนเงินจากโบรกเกอร์ Exness ถึงแม้ค่าคอมมิชชั่นการถอนจะอยู่ที่แค่ 0.20%เท่านั้น แต่ขั้นต่ำที่จะต้องจ่ายคือ 40$ หมายความว่าไม่ว่าเราจะถอนเงินเพียงแค่ 10$ หรือจะจัดเต็มซัก 4,000$ ก็จะต้องเสียคอมมิชชั่นไป40$เหมือนกัน ในขณะที่ค่าธรรมเนียมของธนาคารออนไลน์จะอยู่ที่ 0.5%-2% เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าหากเป็นเงินจำนวนมากๆก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเบิกครั้งละไม่กี่พันก็ถือว่าน่าเสียดายค่าธรรมเนียมอยู่เหมือนกัน

E-currency หรือธนาคารออนไลน์3

ต่อจากเรื่องของค่าธรรมเนียม เนื่องด้วยการโอนผ่านธนาคารมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งที่ค่อนข้างสูง ทำให้หลายๆโบรกเกอร์จำเป็นต้องตั้งขั้นต่ำในการถอนเงินเอาไว้สูงๆ ในขณะที่เราสามารถถอนเงินหลักร้อยเข้าอีเคอเรนซี่ได้อย่างสบายๆ ในเรื่องของการฝากเงินก็เช่นกันเพราะหลายๆโบรกเกอร์จำเป็นต้องปรับขั้นต่ำในการฝากผ่านธนาคารให้สูงกว่าทางอื่น ทำให้เราต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย อย่างภาพด้านล่างเป็นของโบรกเกอร์ XM ครับผม ซึ่งขั้นต่ำการฝากและถอนจะอยู่ที่200เหรียญเลยทีเดียว ในขณะที่ถ้าเลือกฝากผ่าน  Electronic Payment  จะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 5$ เท่านั้นเอง

E-currency หรือธนาคารออนไลน์4

อีกเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือเรื่องของระบบความปลอดภัย ถ้าเป็นสมัยก่อนการใช้ธนาคารออนไลน์อาจถูกโจรกรรมได้ง่าย แต่สมัยนี้พวกเว็บE-currencyต่างๆได้มีการปรับปรุงระบบให้มีความปลอดภัยและรัดกุมขึ้นมาก ทั้งรหัสรักษาความปลอดภัย การยืนยันตัวตน ใช้รหัส otp รวมไปถึงการจำไอพีเครื่อง หากมีการเข้าสู่ระบบจากคนนอกเขาจะแจ้งเตือนให้เรารู้ทันที ทำให้เราวางใจได้ว่าเงินของเรานั้นอยู่ดีมีสุขแน่นอน

เห็นข้อดีขนาดนี้แล้วก็คงต้องหันมาใช้ E-currencyกันแล้วล่ะครับ แต่ถึงแม้จะเชื่อถือได้อย่างไรก็อย่าลืมนะครับว่าความเสี่ยงอยู่กับเราทุกที่ เพราะฉะนั้นก็คงต้องพิจารณากันดีๆล่ะครับ

 


 1

 

 

เส้น