เปรียบเทียบ Psyquation กับ Myfxbook

เปรียบเทียบ Psyquation กับ Myfxbook  

ในหน้า Facebook มักจะปรากฏโฆษณาเกี่ยวกับโปรแกรมเทรดให้เราใช้สำหรับเฝ้าดูผลการเทรดของเรา ในหน้า Facebook ของผมก็เช่นกัน โปรแกรม Psyquation เป็นโปรแกรมใหม่ที่ใช้ในการดูการเทรด ผมจึงลองสมัครดู ดูรูปลักษณ์ภายนอกเป็นโปรแกรมที่น่าสนใจ ในวันนี้จึงได้ทำการรีวิวโปรแกรมนี้โดยเปรียบเทียบกับ myfxbook โปรแกรมยอดนิยมกันให้ดูครับ

ข้อมูลเบื้องต้นโปรแกรม Psyquation

โปรแกรม Psyquation ซึ่งเป็น Interactive web platform คล้ายคลึงกับ myfxbook แต่ข้อแตกต่างคือ ฟังค์ชั่นการทำงานที่แตกต่างออกไป มุมมองความเสี่ยงที่แตกต่างออกไป ผมได้ลองเอาบัญชีเทรดของผมเข้าไปใช้งาน ซึ่งมีความน่าสนใจ โดย โปรแกรม Psyquation จะแบ่งออกเป็นสำหรับนักลงทุนและสำหรับเทรดเดอร์ โดยในบทความนี้ผมจะพูดเฉพาะในด้านเทรดเดอร์เท่านั้น เพราะว่า ที่ myfxbook ไม่มีฟังค์ชั่นสำหรับนักลงทุน โดยการใช้งาน Psyquation ก็ไม่แตกต่างจากโปรแกรมอื่น ๆ คือ เอาไว้ใช้สำหรับดูผลการเทรดและค่าสถิติต่าง ๆ โดยเราจะมาเปรียบเทียบกันราย Function ดังต่อไปนี้

Function การแสดงผลเบื้องต้น

การใช้งานเบื้องต้นของ Psyquation มีกราฟแสดงผลตอบแทน ซึ่งมีกราฟแบบ Advance และหน้าจอปกติ ถ้าให้เปรียบเทียบตรงนี้ผมคิดว่า Myfxbook ทำได้ดีกว่า เนื่องจาก function นี้มีแสดงอัตราผลตอบแทน และ Variance (VaR) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่ได้แสดง Drawdown ให้เห็นซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจฝีมือตัวเองมากเกินไป

ภาพที่ 1 แสดงกราฟของ Psyquation

เมื่อเราพิจารณากราฟของ myfxbook เราจะเห็นได้ชัดว่า myfxbook แสดงผลของ Equity และ Balance ซึ่งรวมถึง Drawdown ด้วย ทำให้เราเห็นว่าจริง ๆ แล้วผลการเทรดของเราดีหรือไม่ดีขนาดไหนอย่างไร

ภาพที่ 2 หน้าจอ myfxbook

เมื่อเราเปรียบเทียบหน้าจอ Advance Statistic ของ Psyquation จะมี function Psyquation score เป็นการให้คะแนน ผมได้คะแนน 63 เต็ม 100 คะแนน โดยแบ่งเป็นทักษะ การจัดการความเสี่ยง พฤติกรรม 3 ด้าน

ภาพที่ 3 หน้าจอ Advance Statistic

นอกนั้นก็จะเป็นสถิติที่เกี่ยวข้องกับการเทรด เช่น Profit Factor Shape Ratio และมีการคาดการว่าผลตอบแทนเท่านี้ 1 ปีจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ โดยที่โปรแกรมคาดการณ์ผลตอบแทนของผมไว้ที่ 34 % ต่อปี ถ้าหากเราเปรียบเทียบหน้าตาของ myfxbook advance Stat เราจะเห็นความต่างอยู่หลายจุดเหมือนกัน

ภาพที่ 4 หน้าจอ Advance Stat ของ myfxbook

จะเห็นว่า หน้าจอของ myfxbook มีค่าสถิติที่ละเอียดกว่า มีค่าที่สำคัญอย่าง average win และ average loss มี win % แสดงให้เห็น ทำให้ใช้ผลการเทรดในการพัฒนาตัวเองได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ระยะเวลาการถือครอง ค่า expectancy หรือ ค่าความเสี่ยงของพอร์ทที่ปรากฏ

 

ข้อดีของ Psyquation

ถ้าหากจะพูดถึงฟังค์ชั่นการใช้งานแล้ว Psyquation มีฟังค์ชั่นการใช้งานที่สู้ myfxbook ไม่ได้เลยใน function ที่ให้ใช้บริการฟรี เพราะว่า myfxbook ไม่ได้เก็บค่าบริการ แต่ว่า Psyquation มีการเก็บค่าบริการในบางส่วน โดยมีการทำ affiliated Link ด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบเท่าไหร่ สำหรับข้อดีของ Psyquation คงมีหน้าตาของเว็บที่ดูทันสมัย และมีลูกเล่นเว็บที่หวือหวา แต่การใช้งานไม่ตอบโจทย์เทรดเดอร์เลยเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีอยู่ส่วนหนึ่งที่ผมชอบ ก็คือ การเปรียบเทียบเทรดเดอร์  หรือชุมชนนักเทรด ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบได้ว่าเราอยู่ตรงไหนของชุมชนกระมัง

ภาพที่ 5 แสดงชุมชนนักเทรดของ Psyquation

ซึ่งไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะสามารถนำผลการเทรดของเทรดเดอร์มาเปรียบเทียบกันได้แบบนี้ ถ้าหากว่า myfxbook สามารถทำได้ ก็จะดีมากเช่นกัน ลักษณะการเปรียบเทียบของชุมชนนี้ ผมเคยเห็นใน ชุมชนของ mql5 ซึ่งให้บริการก็อปปี้เทรด

สำหรับชุมชนของ Psyquation ก็มีบริการให้นักลงทุนเลือกลงทุนกับคนไหนก็ได้ที่คิดว่า มีฝีมือและสามารถบริหารจัดการเงินทุนของเราได้ ซึ่ง Function นี้สามารถตอบโจทย์คนที่เทรดไม่เป็นและให้มืออาชีพเทรดให้ได้ง่ายมาก

ใน Myfxbook มีการให้บริการลงทุนลักษณะนี้เรียกว่า Copy Trade โดยเราสามารถ Copy สัญญาณคำสั่งการเทรดของเทรดเดอร์ที่ทำผลตอบแทนได้ดีให้แก่เรา อย่างไรก็ตามสัญญาณ Copy Trade ของ Myfxbook มีความล่าช้า เนื่องจากการ update ของ Server ที่แตกต่างกัน ไม่ได้เหมือนกับโปรแกรมของ MT4 ที่สามารถเขียน EA ในการ Copy ได้เลยทันที ซึ่งตรงนี้ทำให้ Function ของ Myfxbook ดูไม่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่ และ Function นี้ของ Psyquation ก็เหมือนจะทำได้ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ myfxbook แต่ถ้าหากให้เปรียบเทียบกับ mql community ก็คงสู้ไม่ได้อีกเนื่องจาก จำนวนนักเทรด ชุมชนที่ขนาดใหญ่กว่า ของ mql นั่นเอง

สำหรับโปรแกรมเฝ้าดูการเทรด หรือแทร็คผลการเทรดพวกนี้ ซึ่งการแข่งขันของบริษัทใหญ่ ๆ ทำให้รายย่อยอย่างเราได้ประโยชน์จากการใช้โปรแกรมคุณภาพดีมาใช้งาน และนำมันใช้ในการพัฒนาการเทรดของเราให้ดีขึ้นอยู่เสมอ

 

ทีมงาน  www.thaibrokerforex.com