บทเรียน ป.ตรี ปีที่ 4 เงินทุน Forex และความเสี่ยงที่เหมาะสม

เงินทุน Forex และความเสี่ยงที่เหมาะสม คือ ความเสี่ยงของการเทรดแต่ละครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้ง การเทรดจะมีความเสี่ยงที่จะเสียเงินอยู่และเราได้ limit ความเสี่ยงไว้ที่ 2 % ของการเทรด และเพื่อป้องกันการขาดทุนต่อเนื่องยาวนาน เราต้องพิจารณาว่า การเทรดกี่ครั้งจึงจะเหมาะสมที่จะยอมรับได้ว่า มีการขาดทุนติดต่อกัน

ซึ่งการขาดทุนติดต่อกัน 10 ครั้งหรือ 20 % นั้นถือว่าเป็นความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ โดยนับจากจุดสูงสุดของการเติบโตของพอร์ทลงทุนที่เรียกว่า High Water Mark ซึ่งเมื่อพิจารณาเช่นนี้แล้วการจัดการความเสี่ยงในระยะยาวจะไม่สร้างปัญหาในการเทรดให้กับคุณ

 
 

ความสำคัญของ เงินทุน และความเสี่ยงที่เหมาะสม

ในการเทรด การจัดการความเสี่ยงเป็นปัญหาสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักไม่ได้เข้าใจเรื่องนี้ดีพอ เพราะว่าปัญหาเรื่องการจัดการความเสี่ยงมันลุกลามไปสู่การล้างพอร์ท ลุกลามไปสู่ปัญหาทางสภาพการจัดการทางจิตใจ การจัดการการความเสี่ยง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก่อน

เมื่อวานเราพูดถึงความเสี่ยงคือ อะไรไปแล้ว สิ่งที่สำคัญรองลงมา คือ แล้วจะต้องใช้ความเสี่ยงระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมเท่ากับเท่าไหร่  แต่ก่อนที่จะมาพูดถึงเรื่องนี้ต้องพูดถึงเรื่องของการตีความความเสี่ยงก่อน สำหรับบทความนี้จะพูดถึงกรณีที่มีการใช้ Stop loss อย่างเดียวเท่านั้น

ในการเทรด การใช้ Stop loss เป็นสิ่งที่ช่วยให้ป้องกันไม่เกิดการล้างพอร์ท การใช้ Stop loss หมายความว่า ความเสี่ยงจะเกิดขึ้นนอกเหนือจาก Stop loss นั้นไม่มี มันคือความเสี่ยงที่ไม่ได้เกิดจากความไม่คาดคิด ซึ่งก็คือความเสี่ยงที่ยอมรับได้ มากกว่าความเสี่ยงที่มีได้คาดคิดไว้ ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ได้ตั้ง Stop loss ความเสี่ยประเภทนี้มักใช้ไม่ได้ผล และที่สำคัญ ความเสี่ยงประเภทนี้จะต้องมี Stop loss กำกับอยู่

สำหรับ Stop loss ที่ตั้งมีคำถามว่า ควรกำหนดไว้เท่าใดเพื่อให้การเสี่ยงลงทุนนี้ไม่มากเกินไป ก็จะเป็นเนื้อหาที่ปรากฏในบทความ ป.ตรี ปีที่ 4 นี้ นอกจากนี้ในบทความนี้เรายังพูดถึง เงินทุนที่เหมาะสมสำหรับเหตุการณ์ต่าง ๆ

ระดับของเงินทุนที่เหมาะสม

สำหรับเงินทุนที่เหมาะสม ต่อการเทรดนั้นมีหลายระดับ เงินทุนที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงชีพ เงินทุนที่เหมาะสมสำหรับการเทรดเพื่อฝึกฝีมือ ก็จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่เท่ากัน

เงินทุนที่เหมาะสมสำหรับการเทรดเลี้ยงชีพนั้น ขั้นต่ำต้องเป็นเงิน 15,000 USD เพราะเงินประมาณ 450,000 บาท ซึ่งหากผลกาเทรดที่ดีที่สุดคือ 20 – 30 % ต่อปี นั่นคือ เราจะทำเงินได้ประมาณ 100,000 บาท หรือก็คือประมาณเดือนละ 10,000 บาท โดยประมาณ ถึงจะสามารถอยู่ได้ แต่ต้องเป็นเทรดเดอร์ที่บ้านไม่ได้เช่า ข้าวไม่ได้ซื้อเท่านั้น เพราะเทรดเดอร์ที่มีภาระสูงจะต้องเผชิญกับความกดดันที่เพิ่มขึ้นด้วย

ขณะที่การเทรด เพื่อฝึกหัด จะต้องด Balance ระหว่างจำนวนที่เสียได้กับจำนวนเงินที่เสียไม่ได้ นั่นคือ ถ้าเราใส่เงินจำนวนน้อยเกินไปในการเทรด เราจะไม่ได้รู้สึกอะไร สำหรับเงินทุนที่เหมาะสมสำหรับการฝึกเทรดนั้นจะอยู่ในช่วง 100 USD เพราะว่าเป็นเงินที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป

ระดับของความเสี่ยงที่เหมาะสม

อย่างที่ได้กล่าวไว้ในตอนแรกว่า กรณีที่คุณใช้ Stop loss ในการจำกัดความเสี่ยง และถ้าหากคุณตั้งไว้ดี ความเสี่ยงของคุณจะไม่เคยเกิดขึ้นเกินกว่าที่คาดไว้ นั่นหมายความว่า ระบบของคุณต้องทำกำไรได้อย่างแน่นอนแล้วนั่นเอง ซึ่งความเสี่ยงที่เหมาะสมที่กำลังพูดถึงนี้ หมายถึง การแกว่งตัวลงของระบบเทรด นั้นเอง

แต่ก่อนที่จะถึงตรงนั้น ต้องมาแยกความเสี่ยงของการเทรดแต่ละครั้ง ออกจากความเสี่ยงที่เหมาะสมก่อน ความเสี่ยงของการเทรดแต่ละครั้งควรตั้งไว้ไม่เกิน 2 % เพราะว่า 2% ต่อการขาดทุนต่อครั้งหมายความว่า เราสามารถทนการขาดทุนติด ๆ กันจำนวน 50 ครั้งได้ แต่ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะว่า ถ้าหากคุณขาดทุนติดๆ กันต่อครั้งบ่อยเกินไปจะทำให้คุณ ขาดความมั่นใจ

สดงจุดเข้า Stop loss ไม่เกิน 2 percent
ภาพที่ 1 แสดงจุดเข้า Stop loss ไม่เกิน 2 percent

อย่างไรก็ตาม ระบบเทรดที่ดี ต้องมี Slope ของการเติบโตที่ดีด้วย ถ้าหากเรานับการเติบโตสูงสุดครั้งใหม่เป็นจุดสูงสุดทุกครั้ง สิ่งที่เราต้องนับคือ การเกิด Drawdown ก็ถ้าหากว่า การเกิด Stop loss 2 % แล้วการเกิด Drawdown สูงสุด ของการขาดทุน ไม่ควรจะเกินเท่าไหร่ ก็คือ ไม่ควรเกิน 20 % หรือก็คือ ขาดทุนชน Stop loss ติดกันเกิน 10 ครั้ง เพราะนั่นเป็นจำนวนเงินมหาศาลและมันจะกลับมายาก

ตัวอย่างของ 20 % Drawdown ของการเติบโตของพอร์ท
ภาพที่ 2 ตัวอย่างของ 20 % Drawdown ของการเติบโตของพอร์ท

การใช้หลักการข้างต้นเป็นหลักการ High Water Mark นั่นคือ เราจะนับการเติบโตสูงสุดและนับลงมา 20 % เท่านั้น ซึ่งถ้าหากการเทรด Drawdown เกิน 20 % มันคือการขาดทุนติดกันจำนวนมาก คงต้องกลับมานั่งทบทวนระบบเทรดแล้วว่า ทำไมจึงเกิดปัญหาเช่นนั้นในการเทรด เพราะมันอาจจะส่งผลต่อสภาพจิตใจและสภาพพอร์ทลงทุนนะระยะราวของเทรดเดอร์