บทเรียน ป.ตรี ปีที่ 3 แผนการสู่เทรดเดอร์ที่เป็นกลาง

วิธีเทรด Forex แบบเป็นกลาง คืออะไร

 

สิ่งที่ต้องทำเพื่อสู่เทรดเดอร์ที่เป็นกลาง

คือ สรุปง่ายๆ เรื่องแผนการสู่เทรดเดอร์ที่เป็นกลางการจะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ การพัฒนาไม่หยุดยั้ง จนถึงสุดยอดเป้าหมายของการพัฒนาของเทรดเดอร์นั้นคือ การตัดสินใจอย่างมีเหตุผล การไม่ใช้อารมณ์ในการเทรด การรู้จักคิดอย่างมีเหตุผลและรู้ว่าเมื่อไหร่ควรตัดสินใจ หรือว่าทำอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น เน้นไปที่การแก้ไขปัญหาระยะยาวมากกว่าการแก้ไขปัญหาระยะสั้น

ถ้าหากเราเผชิญหน้ากับเทรดเดอร์ที่สามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างรวดเร็วและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะที่ควรก็สามารถเก็บกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยสามารถป้องกันไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบจากการเทรด และป้องกันสถานการณ์ล้างพอร์ทไว้ได้ การจะเป็นเทรดเดอร์แบบนี้ ต้องมีการวางแผน และแผนที่ว่านั้นคือ การฝึกตั้งคำถามทุกคำถามที่เกิดปัญหา การสร้างเครื่องมือเพื่อจัดการกับอารมณ์ การวิเคราะห์ตัวเองและทำการบันทึกผลการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

เรามาถึงแผนการสู่การเป็นสุดยอดของเทรดเดอร์ เพราะว่าเทรดเดอร์ที่เป็นกลาง คือ คนที่มีข้อดีของทุกภาวะที่กล่าวมา 4 ภาวะซึ่งจริง ๆ แล้วผมก็ไมม่เคยเห็นหรอกครับว่า แต่มันเป็นลักษณะของเทรดเดอร์ที่เราควรจะเทรดเดอร์ที่เป็นกลางอาจจะมีคนที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็นแบบนี้ครับ แต่สำหรับผม ผมอยากเป็นแบบนี้ ผมพยายามเฝ้าที่จะไปให้ถึงการเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างไม่หยุดยั้งครับ

ดังนั้น ในบทความนี้ก็ต้องสารภาพว่า ไม่ใช่แผนการเทรดสำหรับประเภทเทรดเดอร์ประเภทนี้ครับ แต่เป็นแผนการที่จะเข้าถึงการเป็นเทรดเดอร์ประเภทนี้กันเป็นหลัก ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงกันตั้งแต่ ลักษณะของเทรดเดอร์ประเภทนี้ การวางแผนที่เข้าถึงการเป็นเทรดเดอร์ที่สุดยอดในแบบนี้ให้ได้

เทรดเดอร์ที่เป็นกลางคืออะไร

หลายคนอาจจะสงสัยว่าที่ผ่านมาผมใช้อะไรมาจัดแบ่งการเป็นประเภทของเทรดเดอร์ทั้ง 4 ประเภท การจัดแบ่งประเภทเราแบ่งตามผลลัพธ์ของสิ่งที่เราเป็น เช่น เราเป็นคนขี้โมโห เราเป็นคนขี้กลัว เราเป็นคนที่ชอบเสี่ยง สิ่งเหล่านี้มันคืออะไร ผมบอกได้เลยว่า การเป็นคนรูปแบบต่างๆ นั้นเป็นผลมาจากปัจจัยหลักอีกทีหนึ่ง นั่นยังไม่ใช่เหตุของมัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ สิ่งที่ทำให้เราเป็นแบบไหนนั้นมีปัจจัยขับดันอีกต่อหนึ่ง

กรณีศึกษาตัวอย่าง ในภาพด้านล่างผมได้ทำการกำหนดความสามารถของมนุษย์เบื้องต้นไว้  4 ด้าน นั่นคือ ความสามารถในการคิด ความสามารถด้านอารมณ์ การควบคุม และการสัมผัส สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยพื้นฐานหลักๆ ในการสร้างตัวตนของมนุษย์ เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้มีเท่านั้นหรอกครับ มันมีอย่างอื่นอยู่แต่ 4 อย่างนี้ก็เรียกว่าครอบคลุมมาก ๆ เพราะว่าถ้ามองให้ดี คุณจะเห็นว่า เทรดเดอร์ประเภทที่ขี้โมโหนั้น ก็คือ กลุ่มของอารมณ์ และการควบคุมอารมณ์ มันหมายความว่า ความาสมารถในการคิดเขาอาจจะมีเยอะ คือก็เก่งได้ แต่เค้ามีความสามารถด้านอารมณ์น้อย และการควบคุมก็ทำได้ไม่ดี เซนส์เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ด้วยความที่อารมณ์และการควบคุมน้อยนั้น ทำให้ต่อให้ปัญญาเขาดีเขาก็อาจจะทำอะไรที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงขึ้นมาได้ กลุ่มเทรดเดอร์แบบนี้ก็จัดในกลุ่มใช้อารมณ์กลุ่มแรกนั่นเอง จะเห็นว่า ความเหลื่อมกันของแกน คือ ถ้าหากใครมีค่าคะแนนด้านใดเยอะหรือน้อยเป็นพิเศษก็จะทำให้เรากลายเป็นประเภทของเทรดเดอร์นั้นทันที

แผนภาพแมงมุมแสดงอารมณ์เทรดเดอร์
ภาพที่  1  แสดง แผนภาพแมงมุมแสดงอารมณ์เทรดเดอร์

เนื่องจากความเป็นกลางนั้นผมสามารถบอกได้ว่า การที่เราจะเป็นอะไรสักอย่างได้ เราต้องมีค่าคะแนนทุกอย่างที่แทบจะใกล้เคียงกันหมด เพราะเมื่อมันใกล้เคียงกันหมดหรือว่าเยอะเท่ากันหมดมันก็จะส่งผลต่อลักษณะการเป็นเช่น สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี มีสติปัญญา คิดในสิ่งที่จับต้องได้ ชอบความเป็นระบบและมีความคิดสร้างสรรค์พร้อมกัน คุณก็จะสามารถดึงมันมาใช้ได้ถูกช่วงเวลา นี่แหละครับเทรดเดอร์ที่เป็นกลาง

ลองจินตนาการถึงเทรดเดอร์ที่เวลาต้องเล่นหนักแล้วกล้าเล่น พอเวลาที่ต้องเล่นเบาแล้วก็รู้จักควบคุมอารมณ์และความเสี่ยงไม่ให้ลงทุนเกินตัว การต่อกรกับคนแบบนี้จะยากลำบากขนาดไหน ฉะนั้นเทรดเดอร์ที่เป็นกลางจะมีลักษณะ ควบคุมอารมณ์ความโลภและความกลัวของตัวเองให้สอดคล้องกับภาวะตลาดได้มากที่สุด พัฒนาตัวเองได้อย่างมีเหตุมีผล สามารถเกก็บเกี่ยวความรู้ที่ถูกต้องได้ สามารถตัดสินใจได้ค่อนข้างถูกต้องว่า การแก้ไขสถานการณ์แบบไหนที่จะทำได้ และจังหวะแบบไหนควร Cut loss นั่นเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนก็อยากจะเป็นกัน แต่เราจะเป็นเทรดเดอร์แบบนั้นได้อย่างเราเรามาดูแผนกัน

การเข้าถึงเป้าหมายนั้น

การที่จะเป็นเทรดเดอร์แบบนั้นได้ ผมก็ไม่เคยเป็นแต่เนื่องจากเรารู้แกนหลักๆ มีอยู่แค่ 4 แกน การที่มันมี 8 ด้านนั่นเป็นเพราะมันเป็นด้านตรงกันข้ามกันเท่านั้นเอง เช่น อารมณ์กับเหตุผล คือสิ่งที่ไม่แตกต่างกันเลย ถ้าหากเรารู้ว่า ทำไมเราถึงกลัวนั่นเพราะว่าเรากลัวขาดทุน กลัวล้างพอร์ท เราก็สามารถควบคุมความกลัวของเราได้ โดยการตั้ง Stop loss ทำให้เราไม่ต้องล้างพอร์ทแล้ว เมื่อเราไม่กลัวเราก็จะมีเวลาไตร่ตรองเหตุผล จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้บางอย่างสามารถควบคุมได้ชัดเจนเลย ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ

การเข้าถึงเป้าหมายนั้น สิ่งที่ต้องฝึก คือ

  1. การฝึกตั้งคำถามเพื่อสร้างเหตุและผลของการเทรด เช่น ทำไม Martingale ถึงทำให้เราล้างพอร์ท หรือว่า การตั้ง Stop loss หรือ ไม่ Stop loss ดีกว่าหรือไม่ดีกว่ากันในรูปแบบไหน?
  2. การฝึกสร้างเครื่องมือเพื่อนำมาใช้ในการควบคุมเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้ง 8 ด้านที่ว่า เช่นการเขียน EA เพื่อลด การผิดพลาด การ
  3. การวิเคราะห์อารมณ์ตัวเองเสมอเพื่อจดบันทึกและหาทางควบคุม เช่น ทำไมเรารู้สึกตื่นเต้นเวลาที่เราส่ง Lot ใหญ่ อารมณ์ตื่นเต้นนั้นเป็นเพราะเราทำไม่ถูกต้องหรือกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่
  4. บันทึกผลการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ที่ทำให้เกิดผลนั้น วิเคราะห์เหตุและผลของการกระทำของตัวเองสม่ำเสมอ เช่น ทำไมเราถึงขาดทุน หรือว่าการขาดทุนเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ การขาดทุนแบบไหนเลี่ยงได้และเลี่ยงไม่ได้ แล้วเราทำได้ดีหรือไม่