บทเรียน Forex มัธยมปลาย Cross Currency และ Market Basket

Cross currency คือ ค่าเงินหรือคู่เงินที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ US Dollar ดังนั้นค่าเงิน Cross currency จะเป็นการจับคู่ของค่าเงินใด ๆ ก็ได้ เช่น ค่าเงิน EURGBP, EURJPY, GBPJPY, GBPAUD ซึ่งค่าเงินเหล่านี้มักจะ มักจะมีความผันผวนหรือว่ามีเทรนด์ไปเลย ลักษณะจะมีการเคลื่อนไหวแตกต่างจากค่าเงินที่มี USD อยู่ข้างหลัง

 

Cross Currency กับความผันผวนในตลาด Forex

เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น ก็เพราะว่า เนื่องจากค่าเงินอื่น ๆ นั้นจะมีปริมาณการซื้อขายน้อยกว่ามาก สำหรับค่าเงินที่ไม่มี USD ผูกอยู่ด้วย หรือบางคู่เงินก็เคลื่อนไหวใกล้เคียงกัน ตัวอย่างเช่น ค่าเงิน EURGBP

ตัวอย่างของค่าเงิน EURGBP มันคือค่าเงินที่มีเศรษฐกิจผูกกัน เพราะว่าอังกฤษนั้นอยู่ใกล้สหภาพยุโรป ทำให้เศรษฐกิจการค้าเป็นไปแบบพึ่งพากัน การเคลื่อนไหวของค่าเงินส่วนใหญ่จึงเป็นธุรกรรมระหว่างกันของยอดส่งออกและนำเข้า ทำให้การเคลื่อนไหวขึ้น ๆ ลง ๆ และมีเทรนด์เกิดขึ้นน้อย ลักษณะของค่าเงิน EURGBP ก็จะเป็นแบบนี้

จากภาพด้านบนจะเห็นว่ากราฟ EURGBP กราฟ Daily มันมีลักษณะเทรนด์ที่ไม่ชัดเจนนัก เทรนด์จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และมีทิศทางบ้างไม่มีทิศทางบ้าง นั่นก็เป็นเพราะว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงิน EUR และ GBP ใกล้เคียงกัน ขณะที่ช่วงเวลาที่ EUR มีเทรนด์ทิศทางขึ้นรุนแรง EURGBP จะกลายเป็นขาขึ้น  ถ้าค่าเงิน GBP รุนแรงก็จะเป็นขาลง นั่นก็เพราะว่า ค่าเงิน GBP เป็นตัวหาร เมื่อตัวหารมากขึ้น มันก็เลยลดลง

ประโยชน์จากการเทรด Cross Currency

ทีนี้พอเรารู้ลักษณะของมันอย่างนี้แล้ว คำถามคือ เราจะใช้ประโยชน์จากการเทรดของมันได้อย่างไร สิ่งที่เราได้รู้จากตรงนี้มีอยู่ 2 อย่าง คือ การวิ่งของราคาวิ่งในกรอบแคบ และ ถ้ามีทิศทางจะไม่มีการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะบางครั้งค่าเงินพวกนี้เคลื่อนไหวไปด้วยกัน ดังนั้น สิ่งที่เราจะหาประโยชน์จากมันจึงเป็นการใช้ระบบตะกร้าเงิน

Market Basket กับ Cross Currency

ระบบตะกร้าเงิน (Market Basket) เป็นระบบเทรดระบบหนึ่งก็ได้ครับ ที่มีการใช้ค่าเงินหลายค่าเงินในการเทรด โดยค่าเงินเหล่านั้นจะต้องไม่สัมพันธ์กัน คำว่าไม่สัมพันธ์กันมันหมายความว่ายังไง มันหมายความว่า ถ้าหากค่าเงิน EUR ขึ้น ค่าเงินอื่นก็อาจจะลง หรือขึ้นก็ได้ แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวเหมือนกัน

สาเหตุที่ต้องใช้วิธีการนี้ก็เพราะว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินใดค่าเงินหนึ่ง จะทำให้พอร์ทของเราได้กำไร ขณะที่อีกหลายตัวอาจจะขนาดทุน แต่พอเฉลี่ยกันแล้วก็จะทำให้พอร์ทไม่ได้รับความเสียหายมาก เขาเรียกว่า เป็นการกระจายความเสี่ยงวิธีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในตอนที่พอร์ทกำไร ก็อาจจะมีค่าเงินหลายตัวที่ขาดทุนเช่นกัน เพราะว่า มันเคลื่อนไหวไม่เหมือนกัน ซึ่งนั่นเป็นทั้งข้อได้เปรียบ

ทำความรู้จักกับ Correlation

ในบทความนี้จะไม่มียกตัวอย่างของการเข้าเทรด Forex หรือกราฟ แต่เราจะพูดถึงเรื่องของการใช้ ค่า Correlation มันคือค่าความสัมพันธ์ของค่าเงิน โดยมาดูตัวอย่างกัน

ในภาพมีตัวอย่างของความสัมพันธ์กันของค่าเงิน ถ้าหากเราเห็น ก็คือ แถวด้านบน กับแถวด้านข้าง คือการจับคู่ความสัมพันธ์ ถ้าค่าเงิน AUDCAD กับ AUDCAD จึงได้ความสัมพันธ์แบบ 100 % หมายความว่าค่าเงินเคลื่อนไหวเหมือนกัน 100 % นั่นเอง และหากว่าเราจับค่า AUDCAD และ AUDJPY มีความสัมพันธ์คล้ายคลึงกัน 71.2 % นั่นคือ มีความคล้ายคลึงกัน 71.2 %

แต่ว่า ความสัมพันธ์นั้นก็มี 2 ทิศทาง นั่นคือ ความสัมพันธ์ทางบวกและความสัมพันธ์ทางลบ

• การที่ความสัมพันธ์ทางบวกก็หมายความว่า ถ้าหากค่าเงินใดค่าเงินหนึ่งขึ้น ค่าเงินนั้นก็จะขึ้นเหมือนกัน
• แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์ทางลบ ก็จะเคลื่อนไหวตรงข้ามกัน คือ ถ้าค่าเงินใดค่าเงินหนึ่งขึ้น อีกค่าเงินหนึ่งก็จะลง นั่นคือรูปแบบความสัมพันธ์ทางลบ

การใช้ Cross Currency ในการเทรด Forex

แล้วเราจะใช้ Cross Currency ในการเทรด Forex ได้อย่างไร  วิธีการใช้คือ  เพื่อให้มันเป็นการกระจายความเสี่ยงแบบสมบูรณ์ ค่าเงินที่จะเทรด Forex จะต้องไม่เหมือนกันเลยในค่าเงินทั้งหมด เช่น ถ้าหากเราเทรดค่าเงิน AUDJPY ค่าเงินต่อไปก็จะต้องไม่มีค่าเงิน AUD และค่าเงิน JPY อยู่ในนั้น เช่น EURGBP เป็นต้น

ซึ่งเมื่อเราเทรดค่าเงิน EURGBP และ AUDJPY เราก็ยังสามารถเทรดค่าเงิน CADCHF ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับค่าเงินที่ว่ามาก่อนหน้า ทำให้เราสามารถสร้างระบบการเทรดที่เรียกว่า เป็นตะกร้าเงินขึ้นมาได้

การเทรดแบบตะกร้าเงินนี้อาจจะไม่มี Stop loss แต่ต้องส่ง Lot ขนาดเล็กมาก โดยที่การเทรดนั้นต้องเทรดตามสัญญาณ อย่างไรก็ตามต้องศึกษารายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อใช้ในการเทรดด้วย

สรุป

Cross Currency คือค่าเงินที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าเงิน USD และเราสามารถใช้มันในการเทรด Forex และใช้ในการลดความเสี่ยง ผ่านการใช้งานค่า Correlation อย่างไรก็ตาม การใช้งานค่า Correlation นั้นจะต้องมีความเข้าใจก่อน

ซึ่งความเข้าใจด้านค่า Correlation จะใช้ในการปรับค่าความสัมพันธ์และความหลากหลายของพอร์ทลงทุนของเราให้สามารถกระจายความเสี่ยงของความผันผวนของราคาได้ ซึ่งการกระจายความเสี่ยงดังกล่าว ถือเป็นเทคนิคการกระจายความเสี่ยงที่ได้รับความนิยมในการบริหารจัดการการลงทุนอย่าง Modern Portfolio theory