เครื่องมือตั้ง Stop loss ที่สำคัญ

Stop loss

เส้น

ความสำคัญของการตั้ง Stop Loss

ในการตั้ง Stop loss  เป็นเรื่องสำคัญมาก และยังเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้กับเทรดเดอร์ Forex ได้ตลอดเพราะว่า ถ้าเกิดตั้ง Stop loss ใกล้เกินไป มันก็ชนบ่อยเสียจน Win percent ของเราเสียไป ทำให้เราขาดทุนติดต่อกันอย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่มาก แต่ถ้าขาดทุนติด ๆ กันก็ทำให้ลำบากได้เหมือนกัน  อีกประการหนึ่งสำหรับการตั้ง Stop loss ไว้ห่างเกินไป ก็ทำให้เมื่อมันเคลื่อนไหวผิดทางแล้วโดนทีละเยอะ ๆ ทำให้ Risk Reward เสียไปเลยเช่นกัน

คุณต้องเลือกเอาว่าจะทำอย่างไร ถ้าปรับน้อยไป ก็เสีย Win Percent ถ้าตั้งเยอะไปก็เสีย Risk: Reward วิธีที่ดีที่สุดคือการตั้งให้พอดี ในบทความนี้จึงเป็นการแนะนำการใช้เครื่องมืออื่น ๆ ในการตั้ง Stop loss ในกราฟ ซึ่งมีเครื่องมือหลายประเภทที่สามารถทำได้ เราจะยกตัวอย่างสัก 4 เครื่องมือสำหรับการช่วยในการตั้ง Stop loss มีดังต่อไปนี้

เครื่องมือที่ 1: Bollinger Band

การตั้ง Stop loss ในสถาณการณ์ เทรนขาขึ้น, side way, และ เทรนขาลง ใช้ Bollinger Band

ในรูปผมได้ยกตัวอย่างไว้ 3 สถานการณ์ คือ

  • เริ่มจากด้านซ้ายสุด คือ สถานการณ์ขาขึ้น การตั้ง Stop loss คือ การตั้งแนวด้านล่าง นั่นคือ ไม่ควรจะสูงกว่า Bollinger Band ล่างในกรอบสีส้ม 
  • ขณะที่เทรนด์ Side Way จะสังเกตุได้ว่า กรอบการแกว่งตัวจะสูงเป็นพิเศษ สามารถเลือกได้ว่า จะไม่เทรดหรือถ้าคุณจะส่ง Stop loss คุณก็สามารถส่งกว้างเป็นพิเศษได้ เพราะว่า ช่วง Sideway ราคาจะแกว่งกว้างมาก
  • ขณะที่ เทรนด์ขาลง ในกรอบสีแดง คุณสามารถส่ง Stop loss ไว้เหนือ Band ด้านบน ซึ่งนี่เป็น Stop loss ที่แข็งแกร่งเนื่องจากน้อยครั้งนักที่มันจะเด้งลงไปชน แต่ก็มีเช่นกันที่เด้งขึ้นไปชนแล้วกลับมาทิศทางเดิม อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นเครื่องมือในการช่วยตั้ง Stop loss ที่ดีเครื่องมือหนึ่ง

เครื่องมือที่ 2: เส้นแนวรับแนวต้าน

เส้นแนวรับแนวต้าน มันเหมือนกับการกำหนดกรอบของการเคลื่อนไหวของราคาให้กับช่องทางเดินราคา  กรอบแนวรับแนวต้านเป็นเครื่องมือตัวโปรดของผม เพราะว่า มันให้ระบบการเทรดที่สมเหตุสมผลที่สุด แต่อย่างไรก็ตามการกำหนดกรอบแนวทางการวิ่งของราคาในอนาคตอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างเช่นกัน เนื่องจากแต่ละคนก็จะมีมโนทัศน์ในการตีเส้นกรอบราคาที่แตกต่างกัน การใช้กรอบแนวรับแนวต้านนั้นตรงไปตรงมา

การตั้ง Stop loss ใช้เส้น แนวรับ-แนวต้าน (เป็นที่นิยม)

ในกรอบสีเหลือง คือเทรนด์ขาลง และเส้นกรอบสีฟ้า คือ การตีกรอบเทรนด์ไลน์ในช่วงเทรนด์ขาลง จะเห็นว่า กรอบนั้นลงตัวกับการกำหนดช่องทางเดินราคา เราอาจจะเลือกตั้ง Stop loss สูงกว่าเส้นแนวต้าน (เส้นด้านบน) ไว้สักหน่อยเช่นเดียวกับการตั้ง Stop loss ใน Bollinger Band ซึ่งการใช้เครื่องมือแนวรับแนวต้านจะทำให้เราเห็นความเด่นชัดในการเคลื่อนไหวกรอบของมันมากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ

เครื่องมือที่ 3: Fibonacci level

อีกเครื่องมือหนึ่งที่เป็นที่นิยมในการตั้ง Stop loss และสามารถใช้ได้ดีคือ ระดับ Fibonaci  Level ซึ่งกำหนดจุดการเปลี่ยนแปลง ไว้ที่จุดสำคัญ ทำให้การตั้ง Stop loss ของ Fibonacci Level สามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าวิธีการอื่น ๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีวิธีการง่าย แต่การลากเส้นของ Fibonnacci กลับทำให้การลากเส้นของแต่ละคนนั้นอาจจะไม่เหมือนกันและมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะสำหรับคนที่จะใช้ Fibonacci ในการเทรด เรามาดูตัวอย่างกัน

การตั้ง Stop loss ใช้ Fibonacci Level ที่มีความแม่นยำมาก แต่จุดอ่อนคือ แต่ละคนลากเส้นได้ไม่เท่ากัน

จากรูปผมพยายามวาด Fibonacci Level จะพบว่า มันคือการลากตั้งแต่จุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดก่อนหน้า เมื่อมีการพักฐานทำให้เราสามารถเข้าใจระดับราคาต่าง ๆ

ในกราฟข้างต้น เราจะเห็นราคาขยับไปที่ระดับที่ 38 อย่างเห็นได้ชัดและเคลื่อนไหวไม่ผ่านถึงกลับลงมาต่อ หลังจากนั้น ราคาเคลื่อนไปถึงจุดสำคัญหลายจุดและกลับตัว มันแสดงถึงความเป็นระดับราคาที่สำคัญ และทำให้การตั้ง Stop loss ใช้ Fibonacci มีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ และข้อจำกัดเดียวของมันคือ แต่ละคนลากระดับไม่เท่ากันนี่แหละ

เครื่องมือที่ 4: เส้น Moving Average (MA)

เครื่องมือตัวสุดท้ายคือ เส้น MA แต่เดิมเส้น MA ไม่เหมาะสำหรับการใช้ตั้ง Stop loss เนื่องจากลักษณะสองประการของมันคือ

  • มันเคลื่อนไหวตามกรอบราคา
  • และอีกอย่างคือ การเคลื่อนเพื่อใช้เป็นแนวรับแนวต้านของ MA ไม่สามารถกบอกจุดตั้ง Stop loss ในช่วงเทรนด์ Side Way ได้ เพราะว่า เส้น MA จะเคลื่อนไหวอยู่ตรงกลางของกรอบการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถใช้ในการตั้ง Stop loss ได้ดีเท่าที่ควร 
การตั้ง Stop loss ใช้ Moving Average จะใช้ได้ในช่วงมีเทรน นิยมในคนที่ไม่ชอบใช้ Indicator หลายๆตัว เพราะ MA ถือเป็น อินดี้มาตรฐานที่มักมีใช้กันอยู่แล้ว

จากรูปจะเห็นพฤติกรรมอย่างที่ผมกล่าวไปคือ ในกรอบ Side Way หรือ Side Way Up หรือ Down การเคลื่อนไหวของราคาจะอยู่ในกรอบและเส้น MA จะอยู่ตรงกลางพอดีทำให้มันไม่สามารถใช้เป็นเส้นสำหรับ ตั้ง Stop loss ได้ แต่เส้น MA ในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ ก็สามารถใช้ได้อยู่บ้างเพียงแต่ Stop loss อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรและจับจุดยาก มีเพียงบางจุดทีสามารถใช้ได้ ซึ่งการตั้งควรจะมีการเผื่ออยู่บ้าง เพื่อไม่ให้ราคาชนง่ายเกินไป

ทีมงาน : .com

เส้น