คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่ทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนเพื่อศึกษากลยุทธ์การเทรด แต่สุดท้ายกลับพบว่ามันใช้งานไม่ได้ผลหรือไม่? ความผิดหวังอาจรุนแรงถึงขนาดทำให้หลายคนเลิกเล่นตลาดไปเลย นั่นเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะตลาดการเงินอาจเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์รู้จัก และวิธีการที่ประสบความสำเร็จในการนำทางตลาดก็มีอยู่จริง หนึ่งในนั้นที่ได้รับความไว้วางใจจากเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือหลักการ Elliott Wave
สองค่ายความคิด
เมื่อพูดถึงตลาดการเงิน มีวิธีการวิเคราะห์มากมายที่สัญญาว่าจะช่วยปรับปรุงผลลัพธ์การเทรดของคุณ โดยแนวคิดหลักแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) และการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
ค่ายพื้นฐานจะมุ่งเน้นที่:
- เศรษฐกิจ
- อุตสาหกรรมเฉพาะ
- บริษัทเฉพาะ
โดยอาศัยข้อมูลเศรษฐกิจ รายงานอุตสาหกรรม และงบการเงินบริษัทเป็นหลัก แม้แหล่งข้อมูลที่ดูจำกัดเหล่านี้ก็สามารถนำไปสู่วิธีการที่แตกต่างกันมากมาย เช่น:
- การลงทุนแบบ Value Investing
- การลงทุนแบบ Growth Investing
- กลยุทธ์ Event-driven
- การทำ Merger Arbitrage และอื่นๆ
ในขณะที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมุ่งเน้นที่กราฟราคาของเครื่องมือทางการเงิน โดยมองหารูปแบบที่เกิดซ้ำเพื่อคาดการณ์อนาคต รวมถึง:
- การวิเคราะห์แท่งเทียน
- รูปแบบ Head & Shoulders แบบคลาสสิก
- รูปแบบ Flags และ Triangles
- รูปแบบ Cup and Handle
- การวิเคราะห์แบบ Wyckoff และอื่นๆอีกมากมาย
ทฤษฎี Elliott Wave จัดอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน นักวิเคราะห์ทางเทคนิคยังใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคมากมายเพื่อช่วยระบุจุดกลับตัวของราคา เช่น:
- การเทรดโดยใช้ Volume
- Momentum
- RSI (Relative Strength Index)
- Moving Averages
- Bollinger Bands และอื่นๆ
ความผิดพลาดไม่ได้ทำให้ Warren Buffett ท้อถอย
ในโลกสมัยใหม่ เราคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง iPhone คอมพิวเตอร์ ทีวี หรือรถยนต์ของคุณจะเปิดและปิดทุกครั้งที่คุณกดปุ่ม (ถ้าไม่เสีย) แต่ตลาดการเงินไม่ได้ทำงานแบบนั้น มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แม่นยำ แม้แต่ Warren Buffett ซึ่งอาจเป็นนักลงทุนที่ดีที่สุดตลอดกาล ผู้เป็นผู้สนับสนุนการลงทุนแบบ Value Investing อย่างแข็งขัน ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป เช่น เขาขาดทุนจากการลงทุนใน:
- ConocoPhillips
- Dexter Shoes
- Tesco และอื่นๆ
การวิเคราะห์ Elliott Wave เป็นอย่างไร?
เราได้ใช้ Value Investing ในการเลือกหุ้นสำหรับ EWM Interactive Portfolio มาหลายปีแล้วด้วยความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อพูดถึงการเทรดระยะสั้น เราคิดว่าไม่มีอะไรเทียบการวิเคราะห์แบบ Elliott Wave ได้
ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยลองวิธีทางเทคนิคอื่นๆที่ง่ายกว่า เพราะเราได้ลองแล้ว แต่พบว่าอัตราความสำเร็จของพวกมันคล้ายกับการโยนเหรียญ นั่นอาจเป็นเพราะสิ่งที่ง่ายพอที่ทุกคนจะเรียนรู้ได้ จะนำไปสู่ความธรรมดาในที่สุด การถดถอยสู่ค่าเฉลี่ยรับประกันเรื่องนี้
เลือกสนามรบของคุณ
จุดสำคัญคือนักเทรดและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะเลือกสนามรบของตนอย่างระมัดระวังมาก พวกเขารู้ว่าโอกาสที่แท้จริงมีหน้าตาอย่างไรและรอคอยอย่างอดทนให้มันปรากฏ พวกเขาไม่พยายามเดาว่ารูปแบบใดจะเกิดขึ้นหรือสตาร์ทอัพที่ขาดทุนรายใดจะเป็น “Amazon รายต่อไป” แต่พวกเขารอให้รูปแบบเกิดขึ้นจริงๆ แล้วจึงตัดสินใจว่าจะเทรดหรือไม่และอย่างไร
นี่คือเหตุผลที่เรามักเขียนบทความฟรีไม่เกินสามบทความต่อสัปดาห์บนเว็บไซต์ของเรา และบริการ Elliott Wave Pro ของเราจะมีการอัพเดตเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันพุธเท่านั้น เราไม่ต้องการทำผิดพลาดจากการมองแผนภูมิตลอดเวลา เพราะเราเป็นมนุษย์และอาจเห็นรูปแบบบางอย่างที่ไม่มีอยู่จริง
คุณไม่สามารถชนะได้ทุกครั้ง
ลองจินตนาการว่าคุณได้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ Elliott Wave หรือวิธีอื่นใดที่คุณพบว่าเชื่อถือได้ สมมติว่าคุณเป็นพระภิกษุชาวพุทธที่มีความอดทนไม่จำกัดและควบคุมอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์ คุณได้รอจังหวะการเทรดที่สมบูรณ์แบบและลงมือด้วยความรู้เต็มที่ว่าโอกาสอยู่ข้างคุณ
จากนั้นข่าวช็อกบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเทรดของคุณก็ผุดขึ้นมาจากที่ไหนไม่รู้ ราคาพุ่งทะลุคำสั่ง Stop-loss ของคุณและบังคับปิดตำแหน่งที่ดูมีแนวโน้มดีของคุณด้วยผลขาดทุน คนทั่วไปอาจจะโวยวาย ทำลายข้าวของในบ้าน เปลี่ยนไปใช้วิธีการเทรดใหม่ และอาจเลิกเทรดไปเลยตรงนั้น
โชคดีที่คุณเป็นปรมาจารย์ Elliott Wave แบบเซน คุณจึงบอกตัวเองว่าการขาดทุนเกิดขึ้นได้ ตลาดไม่ได้เป็นหนี้เราอะไร มันเพียงแต่ให้โอกาสที่มีความน่าจะเป็นดีกว่าหรือแย่กว่าเท่านั้น แต่ไม่เคยถึง 100%
สรุป
ดังนั้น ทฤษฎี Elliott Wave ใช้ได้ผลในทางปฏิบัติหรือไม่? คำตอบคือ ใช่
มันใช้ได้ผลทุกครั้งไหม? แน่นอนว่าไม่ บางครั้งมันก็ล้มเหลวอย่างน่าทึ่ง
แต่มันคุ้มค่าไหม? แน่นอน!