กว่าจะอยู่ในกลุ่ม 5 % ที่กำไร

เส้น

กว่าจะอยู่ในกลุ่ม 5 % ที่กำไร

 

มีคำกล่าวที่ว่า ในตลาด Forex ทุก ๆ 100 คนจะมีเพียง 5 คนเท่านั้นที่กำไร เพราะนอกนั้นคือผู้ที่ขาดทุนทั้งสิ้น จะว่าอย่างนั้นก็คงจะโหดร้ายไปหน่อยว่า ทำไมตั้ง 100 คนมีกำไรเพียง 5 คน เอาจริง ๆ ผมคิดว่านี่ก็เยอะพอสมควรที่ 100 คนนั้นกำไรตั้ง 5 คน เราลองบอกว่า ถ้าคน 10,000 คนจะมีคนกำไรตั้ง 500 คนเชียวนะครับ ถ้าคนไทยทั้งประเทศเทรด Forex 60 ล้านคน ก็คือ 3 ล้านคน เยอะใช่ไหมครับ เยอะขนาดนี้แต่เราก็ยังขาดทุนกันอยู่แล้วไอ้คนที่กำไรมันอยู่ตรงไหน ต้องบอกว่า 5 คนที่ว่าไม่ค่อยแสดงตัวหรอกครับ

 

ในบทความนี้ผมนำเสนอว่ากลุ่มคน 5 % นั้นทำอะไรบ้างที่กลุ่มคนอีก 95 % นั้นไม่ได้ทำทำให้พวกเขาขาดทุนอยู่อย่างนั้น ดังต่อไปนี้

 

ถือ position ให้นานขึ้น

การถือ position ให้นานขึ้น เช่น การขยับ Time Frame ไปเล่น Daily ทำให้เรามีเวลาตัดสินใจนานขึ้นและไม่ต้องรีบเข้าและออก เพราะสัญญาณที่เกิดมันเกิดช้า กว่ากราฟจะกลับตัวมันใช้เวลาอย่างน้อย 2 – 3 วัน ดังนั้นเมื่อคุณใช้เวลา 2- 3 วันคุณก็มีเวลารอ และได้คิดระหว่างนั้น การได้คิด การได้ไตร่ตรองลดผลของอารมณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการเทรดลงไป การตัดสินใจภายใน 1-2 ชั่วโมงไม่มีผลใด ๆ ต่อกราฟ Daily เพราะว่าคาบเวลามันสั้นเกินกว่าที่มันจะเปลี่ยนกราฟ แต่ถ้าคุณเทรดกราฟ รายชั่วโมง 1 -2  ชั่วโมงมันก็เปลี่ยนแปลงทำให้ส่งผลต่ออารมณ์ของคุณในการตัดสินใจเปิดหรือปิดออเดอร์ เมื่อเป็นเช่นนี้ การเทรดแบบถือครอง Position นั้นจะมีความได้เปรียบในระยะยาวมากกว่าที่จะเทรดสั้น ๆ จึงเป็นวิสัยของเทรดเดอร์ส่วนน้อย กลุ่ม 5 % ที่ประสบความสำเร็จมากจะเทรดกัน

 

การส่ง Stop loss อย่างถูกต้อง

การส่ง Stop loss บ่อยครั้งที่มันกลายเป็นดาบ 2 คมที่ทำลาย position เราถ้าหากเราตั้งใกล้เกินไป ก็ทำให้มันปิดออเดอร์เร็วเกินไป แต่ถ้าหากเราส่งออเดอร์ไกลเกินไปทำให้ Risk : Reward ของเรานั้นไม่ดีพอที่จะเสี่ยงเปิดออเดอร์เทรด การส่ง Stop loss จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของการเทรด การส่ง Stop loss นั้นขึ้นอยู่ปัจจัยของการเข้าเทรด เช่น ถ้าคุณพยายามเทรดจุดกลับตัว ปัญหาคือ คุณไม่รู้ว่า จุดที่คุณส่งคำสั่งนั้นเป็นจุดกลับตัวหรือไม่ ทางที่ดีการเทรดจึงเทรดตามเทรนด์เมื่อเกิดเทรนด์แล้วจึงส่งคำสั่งเทรด การเทรดตามเทรนด์ทำให้เราสามารถหาแนว Stop loss จากกรอบของเทรนด์ที่เราระบุขึ้นมาก นั่นจึงเรียกว่าเป็นการส่ง Stop loss ที่เหมาะสมและถูกต้อง และ Risk Reward นั้นคุ้มค่าต่อการลงทุน

 

อย่าใส่อะไรลงไปในกราฟมาก

การเทรดที่ดี ไม่จำเป็นต้องมี Indicator ขั้นเทพ ที่มีสีสันมากมาย การใส่ Indicator เพียงตัวสองตัวเพื่อตอบโจทย์และทำหน้าที่ของมันชัดเจนเท่านั้นก็เพียงพอสำหรับการเทรด หรือแม้แต่การใช้กราฟเปล่า ๆ ในการเทรดก็สามารถทำได้ เพราะว่า สิ่งที่สะท้อนราคาได้ดีที่สุดคือ ตัวมันเอง การเอา Indicator เข้าไปใส่ ทำให้ความผิดเพี้ยนของสัญญาณเกิดขึ้นได้มาก เพราะว่า indicator นั้นคำนวณมาจากราคาอีกทีหนึ่ง การบิดเบือนและเจือจางด้วยสูตรคณิตศาสตร์ทำให้ การใช้ Indicator นั้นมีประสิทธิภาพลดลง และยิ่งเราใส่ Indicator หลายตัวย่อมส่งผลต่อความเพี้ยนของสัญญาณเข้าเทรดยิ่งสูงขึ้นไปอีก

 

ใช้ Risk Reward ในการเทรดทุกครั้ง

สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งสำหรับมืออาชีพ หรือกลุ่มคน 5 % ทำกันแต่ว่ากลุ่ม 95 % ไม่ได้ทำคือ การใช้ Risk Reward ในการเทรดทุกครั้ง หลาย ๆ คนไม่ได้สนใจว่า Risk Reward นั้นจะใช้ได้อย่างไร เมื่อเรากำหนดจุดเข้า จุดออก และ Stop loss แล้วนั่นคือการกำหนด Risk และ Reward ที่เราจะได้รับจากการเคลื่อนไหวของกราฟ บางครั้งเมื่อเราส่งคำสั่งเทรดช้าเกินไปเพราะไม่ได้อยู่ในหน้าจอทำให้ Risk Reward นั้นต่ำ นั่นคือ มีความเสี่ยงที่มันจะกลับตัวสูง อย่างนี้เราจะเห็นชัดเจนว่า ลักษณะแบบไหนที่ควรจะเทรด และไม่ควรเทรด

 

เทรดเหมือนกับลงทุนทำธุรกิจ

การเทรดนั้นไม่แตกต่างกับการทำธุรกิจ และนี่คือปัจจัยสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ในการทำธุรกิจคุณต้องคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่จะกำหนดความสำเร็จของธุรกิจ เช่น ต้นทุน โอกาส การคำนวณโอกาสในการสำเร็จ เช่นเดียวกับโลก Forex ถ้าเราเทรดได้ช้า หรือว่า สถานการณ์ Risk Reward ไม่ดีเราจึงไม่ควรเทรด โอกาสในการเทรดเราก็สามารถประเมินได้จากจังหวะที่เข้าเทรดนั้นมีความคุ้นเคยกับกราฟเช่นนี้มากน้อยแค่ไหน การมีแผนการเทรด เช่นเดียวกับการมีแผนธุรกิจเป็นต้น

 

นั่นคือปัจจัยทั้งหมดที่วัดความแตกต่างของกลุ่มคน 5 % และกลุ่ม 95 % ซึ่งต้องพิจารณาและฝึกทำร่วมกันกับการเทรดให้เป็นนิสัยที่ดี

 

ทีมงาน : .com

เส้น